CU-TEP | Review April 2016
เรามาพูดถึงการแนะนำการเตรียมตัวไปสอบกันนะคะ ครั้งนี้ ยังมีการแต่งตัวผิดระเบียบของน้องๆ กางเกงขาเดป กางเกงยีนส์ ห้ามโดยเด็ดขาดนะคะ และอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ ไม่ต้องพกไปเลยค่ะ ทางศูนย์ทดสอบทางวิชาการของจุฬาฯ มีเตรียมไว้ให้ทุกคนในห้องสอบแล้วค่ะ และสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไปก็คือ บัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ หรือพาสพอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ พร้อมกับตรวจสอบชื่อและนามสกุลว่าถูกต้องตรงกับชื่อและนามสกุลที่เราใช้สมัครสอบค่ะ
ต่อไปเรามาดูเนื้อหาการสอบของแต่ละพาร์ทกันค่ะ
ใน Part Listening ครั้งนี้ค่อนข้างง่ายเลยทีเดียว สำเนียงอเมริกันฟังชัด จับใจความได้ง่าย เรื่องไม่ซับซ้อน สำนวนไม่เยอะ และไม่เจอคำศัพท์ยากเยอะๆ ด้วยค่ะ น่าจะทำคะแนนกันได้ดีทีเดียว สำนวนที่น่าสนใจสำหรับรอบนี้มีดังนี้ค่ะ
Cost an arm and a leg = ของสิ่งนั้นมีราคาแพงมากๆ แพงเท่าแขนเท่าขา ไม่สามารถซื้อได้
crape for = อยากได้....มากๆ
สำหรับในพาร์ท Listening มีการสอดแทรกไวยากรณ์ที่น่าสนใจคือ การใช้ If clause => If + past perfect tense, S + would + have + V3 และ การใช้ Ought to ซึ่งมีความหมายเท่ากับ should แปลว่า ควรจะและสำหรับคำศัพท์ที่น่าสนใจที่ได้เจอ คือ checked baggage = กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องบิน Bread fermentation = การหมักขนมปัง
และ Part Grammar สำหรับรอบนี้ถือว่าเป็นพาร์ทที่น่าจะยากสุดค่ะ เพราะว่าโจทย์ยาว และมีจุดหลอกเยอะ ส่วนใหญ่มักจะเจอเรื่องที่ออกวนๆ ซ้ำ อยู่แป็นประจำ ก็คือ การใช้ despite + noun = ทั้งๆ ที่ / แม้ว่า , การใช้ like / alike ใช้แตกต่างกันค่ะ อย่าสับสนนะคะ, beside เป็นคำบุพบท แปลว่า ข้างๆ ส่วน besides เป็นคำเชื่อม แปลว่ายิ่งไปกว่านั้น = moreover ค่ะ ดังนั้นถ้าหากใครไม่ได้ฝึกทำข้อสอบบ่อยๆ หรือไม่เคยเจอโจทย์ลักษณะแบบที่เจอในข้อสอบก็อาจจะใช้เวลาคิดนาน ดังนั้นการฝึกทำโจทย์บ่อยๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำข้อสอบพาร์ทนี้ค่ะ ซึ่งจะทำให้เราทำโจทย์ได้รวดเร็วและถูกต้องขึ้นค่ะ
ข้อมูลจาก อ.พรพรรณ (พี่เปิ้ล) ผู้ก่อตั้ง จุฬาติวเตอร์ ( Tutor Ple , founder of Chulatutor )