โพสต์แนะนำ

Top Tips TOEIC Reading‏

Top Tips TOEIC Reading‏ กลับมาพบกับ Top tips TOEIC Reading ซึ่จะอยู่ในพาร์ทที่ 7 ของข้อสอบ กันค่ะ สำหรับพาร์ทนี้จะมีข้อสอบทั้งหมด 48 ข...

CU-TEP | Review April 2016

CU-TEP | Review April 2016


พบกับการรีวิวข้อสอบ CU-TEP ครั้งที่ 4/2559 กันค่ะ รอบนี้สอบกันในวันที่ 10 เมษายน 2559 ค่ะ สำหรับรอบนี้อากาศแสนจะร้อนอบอ้าวรับวันสงกรานต์ที่จะมาถึงกันเลยทีเดียวค่ะ  สำหรับการสอบในวันนี้จำนวนผู้เข้าสอบก็ยังเยอะเหมือนปกติค่ะ บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองก็เตรียมพร้อมส่งเสบียงกันสุดๆ 

เรามาพูดถึงการแนะนำการเตรียมตัวไปสอบกันนะคะ ครั้งนี้ ยังมีการแต่งตัวผิดระเบียบของน้องๆ กางเกงขาเดป กางเกงยีนส์ ห้ามโดยเด็ดขาดนะคะ และอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ ไม่ต้องพกไปเลยค่ะ ทางศูนย์ทดสอบทางวิชาการของจุฬาฯ มีเตรียมไว้ให้ทุกคนในห้องสอบแล้วค่ะ และสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไปก็คือ บัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ หรือพาสพอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ พร้อมกับตรวจสอบชื่อและนามสกุลว่าถูกต้องตรงกับชื่อและนามสกุลที่เราใช้สมัครสอบค่ะ

ต่อไปเรามาดูเนื้อหาการสอบของแต่ละพาร์ทกันค่ะ 


ใน Part Listening ครั้งนี้ค่อนข้างง่ายเลยทีเดียว สำเนียงอเมริกันฟังชัด จับใจความได้ง่าย เรื่องไม่ซับซ้อน สำนวนไม่เยอะ และไม่เจอคำศัพท์ยากเยอะๆ ด้วยค่ะ น่าจะทำคะแนนกันได้ดีทีเดียว สำนวนที่น่าสนใจสำหรับรอบนี้มีดังนี้ค่ะ


               Cost an arm and a leg = ของสิ่งนั้นมีราคาแพงมากๆ แพงเท่าแขนเท่าขา ไม่สามารถซื้อได้ 
               crape for = อยากได้....มากๆ 

สำหรับในพาร์ท Listening มีการสอดแทรกไวยากรณ์ที่น่าสนใจคือ การใช้ If clause => If + past perfect tense, S + would + have + V3 และ การใช้ Ought to ซึ่งมีความหมายเท่ากับ should แปลว่า ควรจะและสำหรับคำศัพท์ที่น่าสนใจที่ได้เจอ คือ checked baggage = กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องบิน Bread fermentation = การหมักขนมปัง

สำหรับ Part Reading พาร์ทนี้พี่ อาจจะเจอคำศัพท์ยากบ้าง หรือเนื้อเรื่องยาว อาจจะอ่านไม่ทันเวลาบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ถือว่าสามารถทำคะแนนได้จากพาร์ทนี้ และเนื้อเรื่องก็ไม่ไกลตัวมากเกินไป สามารถอ่านรู้เรื่องได้ค่ะ ที่เราเรียนๆกัน ตอนทำแบบฝึกหัก เผลอๆ จะยากกว่าที่เจอในข้อสอบซะอีกค่ะ ข้อสอบรอบนี้พูดถึงมุมมองของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา, การหาเสียงของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา, การรักษาโรคออทิสติก, การดื่มแอลกอฮอล์ในวัยรุ่น และเรื่องสุดท้าย เรื่องของประวัติไชนาทาวน์ในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา สำหรับศัพท์ในครั้งนี้ไม่ยากค่ะ แต่เนื้อเรื่องที่ได้อ่านค่อนข้างยาว เราจะสังเกตได้ว่า เนื้อหาในการสอบ CU-TEP จะเป็นเรื่องที่เกาะกระแสสังคมมากขึ้นค่ะ

และ Part Grammar สำหรับรอบนี้ถือว่าเป็นพาร์ทที่น่าจะยากสุดค่ะ เพราะว่าโจทย์ยาว และมีจุดหลอกเยอะ ส่วนใหญ่มักจะเจอเรื่องที่ออกวนๆ ซ้ำ อยู่แป็นประจำ ก็คือ การใช้ despite + noun = ทั้งๆ ที่ / แม้ว่า , การใช้ like / alike ใช้แตกต่างกันค่ะ อย่าสับสนนะคะ, beside เป็นคำบุพบท แปลว่า ข้างๆ ส่วน besides เป็นคำเชื่อม แปลว่ายิ่งไปกว่านั้น = moreover ค่ะ ดังนั้นถ้าหากใครไม่ได้ฝึกทำข้อสอบบ่อยๆ หรือไม่เคยเจอโจทย์ลักษณะแบบที่เจอในข้อสอบก็อาจจะใช้เวลาคิดนาน ดังนั้นการฝึกทำโจทย์บ่อยๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำข้อสอบพาร์ทนี้ค่ะ ซึ่งจะทำให้เราทำโจทย์ได้รวดเร็วและถูกต้องขึ้นค่ะ

ข้อมูลจาก  อ.พรพรรณ (พี่เปิ้ล) ผู้ก่อตั้ง จุฬาติวเตอร์ ( Tutor Ple , founder of Chulatutor )


TU-GET | Review March 2016

TU-GET | Review March 2016




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่การรีวิวข้อสอบ TU-GET กันอีกครั้งนะคะ ครั้งนี้ก็เป็นการสอบรอบล่าสุดคือ การสอบ TU-GET ประจำเดือนมีนาคม 2559 ค่ะ ซึ่ง จุฬาติวเตอร์ ของเราก็ได้นำไวยากรณ์และคำศัพท์ที่น่าสนใจมาฝากทุกคนกันด้วยค่ะ มาติดตามกันได้เลยนะคะ 

เรื่องแรก เราจะพูดถึงการใช้ much กับ many ค่ะ ทั้งสองคำนี้มีความหมายเหมือนกัน แปลว่า “ซึ่งจำนวนมาก” หรือ “ซึ่งปริมาณมาก” ค่ะ แต่เราจะใช้สองคำนี้แทนกันไม่ได้นะคะ Much ใช้กับคำนามที่นับไม่ได้ เป็นคำนามที่ไม่มีตัวตน เช่น ความรู้สึกของเรา หรือคำนามที่นับไม่ได้ที่เป็นรูปธรรม อย่างเช่น น้ำ อากาศ เป็นต้นค่ะ ส่วน Many จะใช้กับคำนามที่นับได้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ปากกา ดินสอ เป็นต้นค่ะ 

เรามาลองดูตัวอย่างโจทย์กันบ้างค่ะ Ex) The company plan to spend as many as one million bath. ถามว่า การใช้ many ในประโยคนี้ถูกหรือผิดคะ ซึ่งการที่เราจะดูว่าประโยคนี้ถูกหรือผิด ต้องดูที่การใช้คำนาม ซึ่งคำนามที่มันขยายก็คือ หนึ่งล้านบาทนั่นเองค่ะ บางคนอาจรู้สึกว่า เงินเป็นคำนามที่นับได้ แต่ในทางภาษาอังกฤษ เงิน ถือว่าเป็นคำนามนับไม่ได้นะคะ ดังนั้น ประโยคนี้จึงผิดค่ะ และประโยคที่ถูกต้องนั่นก็คือ The company plan to spend as much as one million bath. 

ต่อไปเรามาพูดถึงเรื่องการใช้ Adjective กันค่ะ ข้อสอบในรอบนี้ถามง่ายๆ หลอกเราง่ายๆ โดยถามว่า เรารู้หรือไม่ว่า Adjective ทำหน้าที่อะไร และวางอยู่ตรงไหนของประโยคได้บ้าง - ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนค่ะ ว่า Adjective ทำหน้าที่อะไร โดย Adjective แปลเป็นภาษาไทยว่าคำคุณศัพท์ หน้าที่คือขยายคำนาม ตำแหน่งที่พบเจอในประโยคมีได้ สามแห่ง นั่นคือ หน้าคำนามที่ขยาย, หลัง V to be และตำแหน่งสุดท้าย คือ หลัง linking Verb ค่ะ ลองมาดูตัวอย่างการใช้กันบ้างค่ะ I confident – confident แปลว่าซึ่งมั่นใจ ทำหน้าที่เป็น adjective ดูได้จาก suffix –ent คำที่ลงท้ายด้วย –ent ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เป็น adjective ค่ะ และตำแหน่งของ adjective วางไว้ได้ 3 ตำแหน่ง ดังนั้นประโยคนี้ไม่ถูกต้องค่ะ ต้องแก้ใหม่ให้ถูกต้องเป็น I am confident 

ต่อมาเรามาดูคำศัพท์ที่น่าสนใจกันบ้างค่ะ Face out – ทำให้ค่อยๆ ถึงจุดสิ้นสุดลง = eliminate คำนี้เจอบ่อยใน passage ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรม นั่นคือ contaminated (adj.) – ซึ่งปนเปื้อน = polluted Preservation – การเก็บรักษา 

หวังว่าผู้ที่ได้ดูคลิปรีวิวข้อสอบ TU-GET นี้จะได้ความรู้ไปไม่มากก็น้อยนะคะ และหากใครมีข้อสงสัยอย่างไรก็สามารถทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปได้เลยนะคะ รับรองว่าจะเข้ามาอ่านแน่นอนค่ะ และการรีวิวครั้งหน้าจะนำเรื่องที่สอบถามเข้ามามาตอบกันค่ะ แล้วพบกันใหม่นะคะ สวัสดีค่ะ

ข้อมูลจาก  อ.พรพรรณ (พี่เปิ้ล) ผู้ก่อตั้ง จุฬาติวเตอร์ ( Tutor Ple , founder of Chulatutor )

GED | Review GED Exam the session of March 2016

GED | Review GED Exam the session of March 2016



สวัสดีน้องๆ จุฬาติวเตอร์ ทุกคนค่ะ วันนี้พี่หญิงมาอยู่กันที่ทะเลค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึงวิชาแรกกันก่อนนั่นคือ วิชา Science ค่ะ เพราะเราอยู่กันที่ทะเล พี่หญิงเลยนึกถึงข้อสอบข้อหนึ่ง ที่ถามว่า กัปตันเรือทำไมต้องระวัง Iceberg หรือก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่ที่ลอยอยู่ในทะเล ซึ่งเวลาเดินเรือ กัปตันต้องพยายามหลีกเลี่ยงเมื่อเจอ นั่นเพราะทะเลหากเราพบกับก้อนน้ำแข็งที่ลอยอยู่นั้น เป็นเพียง 20% ของก้อนน้ำแข็งทั้งหมด และส่วนที่เหลือนั้นอยู่ใต้ผืนน้ำซึ่งเรามองไม่เห็น ไม่ทราบว่าฐานของมันกว้างแค่ไหน ดังนั้นหากน้องๆ เข้าห้องสอบไปแล้วเจอคำถามเรื่องนี้ ให้น้องๆ จำคำตอบแล้วตอบว่า High pour ton iceberg underwater ค่ะ 

วิชาต่อไป คือวิชา Math ค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการคิดเปอร์เซ็นต์กันค่ะ ยกตัวอย่างว่า หากเราต้องการขายเสื้อให้ได้กำไร จะต้องขายที่ราคาเท่าไหร่ เรามาดูสมการกันค่ะ 10/100 x (X) = 250 จากสมการคือ เราไม่ทราบราคาเสื้อ ที่ซื้อมา แต่เราขายไปที่ราคา 250 บาท ดังนั้นราคาเริ่มต้นของเสื้อคือ X ดังนั้นพอเราย้ายข้างสมการ แล้วแก้สมการออกมาก็จะได้คำตอบนั่นเองค่ะ

ต่อไปเป็นวิชา Social Studies ค่ะ สันนี้เป็นเรื่องบทความยาวเกี่ยวกับวัยรุ่นอเมริกัน ซึ่งเด็กๆ นักเรียน High School มักจะได้รับเงินจากพ่อแม่เป็นรายเดือน ข้อสอบมีการพูดถึงการจัดการบริหารการเงินของเด็กๆ ข้อสอบถามว่า ทำไมเด็กๆ ถึงไม่สามารถจัดการบริหารการเงินได้ดีพอที่จะใช้จ่ายได้ทั้งเดือน และพวกเขามีวิธีคิดหรือวางแผนการใช้เงินอย่างไร สำหรับข้อนี้ให้เราตอบว่า เด็กใช้เวลาวางแผนน้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อเดือน หรือ less than one hours per month ดังนั้นเด็กๆ จึงไม่สามารถวางแผนการใช้เงินได้นั่นเองค่ะ

แล้วเรามาพบกันใหม่นะคะ สวัสดีค่ะ

ข้อมูลจาก  อ.พรพรรณ (พี่เปิ้ล) ผู้ก่อตั้ง จุฬาติวเตอร์ ( Tutor Ple , founder of Chulatutor )

Top Tips TOEIC Reading‏

Top Tips TOEIC Reading‏






กลับมาพบกับ Top tips TOEIC Reading ซึ่จะอยู่ในพาร์ทที่ 7 ของข้อสอบ กันค่ะ สำหรับพาร์ทนี้จะมีข้อสอบทั้งหมด 48 ข้อ แบ่งเนื้อหาออกเป็น Single Passage 28 ข้อ (ข้อที่ 153 – 180)  และ Double Passage 20 ข้อ (ข้อที่ 181 – 200) ค่ะ ต่อไปเรามาพูดถึง Top Tips กันเลยค่ะ 

ข้อที่ 1) อ่านคำถามก่อน : โดยให้เราอ่านคำถามก่อนเสมอ เพราะคำถามจะบอกเราว่าควรจะหากคำตอบจากส่วนไหนของเนื้อเรื่อง 

ข้อที่ 2) สแกนเพื่อหาคำตอบ : หาคำตอบในเนื้อเรื่องว่าเรื่องที่เราอ่านจะเป็นไปในทิศทางไหน ซึ่งคำถามมักจะถามเรียงลำดับอยู่แล้ว คำถามข้อแรกมักจะอยู่ส่วนบนของเนื้อเรื่องนั่นเองค่ะ 

ข้อที่ 3) ให้เราอ่านจับประเด็นในเนื้อเรื่องคร่าวๆ ก่อนใน Double Passage หรือส่วนที่เป็นบทความยาวๆ : ซึ่งจะต้องดูไอเดียหลักๆ ของย่อหน้านั้นให้ได้ เพื่อจะได้จับประเด็นได้ว่าแต่ละย่อหน้านั้นเนื้อเรื่องเป็นอย่างไร จะช่วยในการตอบคำถามง่ายขึ้น 

ข้อที่ 4) สนใจชื่อเรื่อง รูปแบบ ลักษณะ ลำดับเนื้อหาของเรื่อง : โดยส่วนใหญ่รูปแบบเรื่องมักจะเป็น บทความให้ข้อมูล, โฆษณาทางหนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต โปรแกรมท่องเที่ยว จดหมายธุรกิจ การตอบอีเมล์ลูกค้า กราฟและแผนภูมิเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ 

ข้อที่ 5) คำถาม Infer/detail ให้อ่านโจทย์ให้ดี เผื่อเวลาในการหาคำตอบ : คำถามประเภทนี้ผู้ออกข้อสอบมักจะให้เราใช้เวลาเพื่อการหาคำตอบที่ถูกต้อง ดังนั้นเราจึงต้องเผื่อเวลาในการค้นหาคำตอบค่ะ 

ประเภทคำถามของข้อสอบ TOEIC Reading แบ่งออกเป็น 4 แบบหลักๆ คือ 


1) ถาม Main Idea – มักใช้ประโยคคำถาม ดังนี้

- What is the purpose of the passage? 

- What is the main idea of this article?

2) ถาม Detail – มักจะใช้คำถามพวก How/ What / Who / When / Which / Where ให้เราเช็คคำถามก่อนแล้วค่อยกลับไปดูที่เนื้อเรื่อง

3) ถาม Infer – ข้อสอบมักจะไม่บอกตรงๆ ในเนื้อเรื่อง มักจะใช้คำถามดังนี้

- What does the author probably to do next?

4) ถาม Vocab – มักจะถามเรื่องคำศัพท์ที่ใกล้เคียงกับเนื้อเรื่องและตัวเลือกที่ให้มา สำหรับข้อนี้ใครจำศัพท์ได้เยอะก็จะได้เปรียบค่ะ

สำหรับ TOP TIPS 5 ข้อนี้ อย่าลืมนำกลับไปทบทวนกันนะคะ และอีกเรื่องที่อยากจะฝากคือ การอ่านคำถาม TOEIC Reading ที่ดี ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกคำในเนื้อเรื่อง ให้เราอ่านจับใจความสำคัญและการหาคำตอบในข้อสอบไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างในเนื้อเรื่อง รู้เพียงที่คำถามเค้าถาม และตอบให้ถูกต้องก็พอค่ะ และสุดท้าย อย่าลืมไปฝึกทำข้อสอบและหมั่นท่องศัพท์ด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่นะคะ

ข้อมูลจาก  อ.พรพรรณ (พี่เปิ้ล) ผู้ก่อตั้ง จุฬาติวเตอร์ ( Tutor Ple , founder of Chulatutor )

TOP 5 TIPS TOEIC Part Grammar

TOP 5 TIPS TOEIC Part Grammar





สวัสดีค่ะ น้องๆ จุฬาติวเตอร์ กลับมาพบกับพี่เกดคนเดิมอีกแล้วนะคะ ครั้งนี้เราจะมาพูดถึง TOP TIP TOEIC READING ค่ะ ซึ่งข้อสอบประกบไปด้วย 100 ข้อ ให้เวลาทำข้อสอบ 75 นาทีค่ะ 

โดยครั้งนี้เราจะมาพูดถึง Part 5 และ 6 ในข้อสอบค่ะ โดย Part 5 เรียกว่า Incomplete Sentence ลักษณะข้อสอบจะเป็นการให้ประโยคมาแล้วเติมคำลงในช่องว่าง ส่วน Part 6 เรียก Text Completion แบ่งเป็น 4 บทความ แต่ละบทความมีช่องว่างให้เติม 3 ข้อ ซึ่งในสองพาร์ทนี้จะวัด Grammar Vocabuary และการใช้คำเชื่อมต่างๆ ค่ะ 

สำหรับ top tip ต่างๆ ที่จะได้เจอในคลิปนี้ เรามาเริ่มกันเลยค่ะ 


  1.  วิเคราะห์ตัวเลือก – เพราะตัวเลือกเป็นตัวช่วยให้เราวิเคราะห์ว่าโจทย์ต้องการให้เราเติมอะไร ประกอบด้วย Part of speech อะไรบ้าง แล้วเราค่อยไปดูคำที่อยู่หน้าและหลังช่องว่างที่โจทย์เว้นไว้ โดยที่อาจไม่ต้องอ่านประโยคหรือแปลความหมายทั้งประโยคเลยค่ะ 
  2. จำ Suffix เพื่อประโยชน์ในการเดา Part of speech – เช่น คำที่ลงท้ายด้วย –ment / -tion / -ily / -or / -er คำเหล่านี้มักเป็นคำนาม การที่เราจำ suffix ได้จะทำให้เราทำข้อสอบที่วัดโครงสร้างประโยคได้ถูกต้องและแม่นยำมากขึ้นค่ะ 
  3. การใช้ Basic Grammar – ข้อสอบ toeic ใช้วัดการสื่อสารพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ซึ่งต้องมีการใช้ไวยากรณ์พื้นฐานเข้ามาปนแน่นอน ซึ่งสิ่งที่ต้องเจอแน่นอนเลยก็คือเรื่อง Tense Subject-Verb Agreement หากเราแม่นเรื่องเหล่านี้ก็จะช่วยให้เราวิเคราะห์หาคำตอบได้เร็วขึ้น เพราะข้อสอบวัดเรื่องความเร็วในการทำค่ะ 
  4. หากเราคิดไม่ออกให้ข้ามข้อนั้นไปก่อนแล้วค่อยกลับมาทำเมื่อมีเวลาเหลือ – อย่าลืมว่าเวลา 75 นาทีเราต้องทำข้อสอบทั้งหมด 100 ข้อ ถือว่าเวลาค่อนข้างจำกัด หากเราทำข้อสอบไม่ได้คิดไม่ออกให้เราข้ามไปก่อนเลย อย่ามัวคิดให้ออกเพราะจะเสียเวลา เราควรทำข้อสอบในเนื้อหาที่เราแม่นยำและมั่นใจก่อน หากเรามัวคิดจนเวลาหมดจะทำให้เราอาจไม่มีเวลาไปทำข้อสอบข้องหลังๆ ที่เราอาจแม่นกว่าก็ได้ค่ะ และการทำข้อสอบหนึ่งข้อไม่ควรใช้เวลาเกิน 20 วินาทีนะคะ 
  5. ในการทำ Double Passage ต้องใช้คำศัพท์และคำเชื่อมที่สอดคล้องกัน – ดังนั้นการทำข้อสอบพาร์ทนี้ เราควรอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดคร่าวๆ แบบเร็วๆ ก่อน เพื่อให้รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกันอย่างไรแล้วค่อยหาคำตอบ อย่าพยายามค่อยๆ ทำทีละข้อเพราะจะเสี่ยงต่อการเลือกคำตอบผิด โดยเฉพาะการใช้คำเชื่อมค่ะ
สำหรับตัวอย่างข้อสอบใน TOP TIPS ข้อต่างๆ สามารถดูเพิ่มเติมในคลิปนี้ได้เลยนะคะ 

สุดท้ายอย่าลืมทบทวน TOP TIPS ที่ได้รับและฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาด้วยนะคะ แล้วกลับมาพบกันใหม่ค่ะ

เครดิต :  อ.พรพรรณ (พี่เปิ้ล) ผู้ก่อตั้ง จุฬาติวเตอร์ ( Tutor Ple , founder of Chulatutor )